การตลาดอาหารเสริม 2026 เทรนด์และกลยุทธ์ที่เจ้าของแบรนด์ต้องรู้ก่อนเริ่มขาย
การตลาดอาหารเสริม 2026 กำลังจะกลายเป็นปีที่ทิศทางของตลาดอาหารเสริมเปลี่ยนแปลงอย่างน่าสนใจ ทั้งในด้านพฤติกรรมการบริโภค เทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาท รวมถึงการแข่งขันของแบรนด์ใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้บริโภคยุคปัจจุบันไม่ได้มองหาเพียงแค่อาหารเสริมที่เห็นผลเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับคุณภาพ ความปลอดภัย และภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่สื่อถึงความน่าเชื่อถือ
ดังนั้น สำหรับเจ้าของแบรนด์แล้ว การเข้าใจ “ภาพรวมตลาด” และ “ทิศทางการตลาด” คือก้าวแรกที่จะช่วยให้สามารถวางกลยุทธ์ได้อย่างมั่นใจในปี 2026 ไม่ว่าจะเป็นการเลือกสูตร การวางคอนเซปต์ผลิตภัณฑ์ หรือการสื่อสารแบรนด์ให้ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพและความงามที่กำลังมาแรงในปีหน้า
การตลาดอาหารเสริม 2026 กับกลยุทธ์สำคัญที่แบรนด์ต้องวางแผนตั้งแต่วันนี้เพื่อเริ่มขายในปีหน้า
อุตสาหกรรมอาหารเสริมยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกปี โดยเฉพาะในช่วงหลังโควิด-19 ที่ผู้คนเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ทั้งในแง่ของการดูแลร่างกาย ความงาม และการชะลอวัย ปี 2026 จึงถือเป็นปีที่ตลาดอาหารเสริมยังคงคึกคักและแข่งขันสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เจ้าของแบรนด์ที่ต้องการสร้างยอดขายหรือขยายตลาดจึงจำเป็นต้องเข้าใจทิศทางและกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่
บทความนี้ Charmace Cosmed จะพาคุณมาดูเทรนด์และแนวทางการตลาดอาหารเสริมในปี 2026 เพื่อช่วยให้เจ้าของแบรนด์สามารถวางแผนการตลาดได้ตรงจุด และพร้อมรับมือกับตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วค่ะ
ศึกษาภาพรวมตลาดอาหารเสริมปี 2026
ปี 2026 ยังคงเป็นปีทองของธุรกิจอาหารเสริม ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก โดยข้อมูลจากหลายสำนักคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดอาหารเสริมทั่วโลกจะเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยปีละกว่า 8–10% ส่วนในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตจากความต้องการของผู้บริโภคที่มองว่า “อาหารเสริม” ไม่ใช่ของฟุ่มเฟือยอีกต่อไป แต่เป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพประจำวัน
กลุ่มผู้บริโภคหลักที่เติบโตสูงคือวัยทำงานตอนต้นจนถึงวัยกลางคน รวมถึงกลุ่มผู้หญิงที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพ ผิวพรรณ และการชะลอวัย นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้สูงอายุที่มีกำลังซื้อสูงและต้องการผลิตภัณฑ์เพื่อดูแลสุขภาพระยะยาว
จากภาพรวมนี้จะเห็นได้ว่า เจ้าของแบรนด์ที่เข้าใจความต้องการของผู้บริโภคและสามารถพัฒนาแบรนด์ให้ตอบโจทย์ทั้งด้าน “คุณภาพ” และ “ภาพลักษณ์” จะมีโอกาสเติบโตได้มากกว่าคู่แข่งในปี 2026 ค่ะ
เทรนด์สำคัญของตลาดอาหารเสริมในปี 2026
ในปี 2026 การทำการตลาดอาหารเสริมจะไม่ได้หยุดอยู่ที่ “สุขภาพดี” อีกต่อไป แต่จะเน้นไปที่ความเฉพาะตัว ความยั่งยืน และการเชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งมีเทรนด์สำคัญที่เจ้าของแบรนด์ควรจับตาไว้ดังนี้ค่ะ…
1.เทรนด์สุขภาพเชิงป้องกัน (Preventive Health)
ผู้บริโภคยุคใหม่เริ่มตระหนักว่าการดูแลสุขภาพที่ดีที่สุดคือ “การป้องกันก่อนเกิดโรค” มากกว่าการรักษาในภายหลัง อาหารเสริมในกลุ่มภูมิคุ้มกัน สมอง และการนอนหลับ จึงได้รับความนิยมต่อเนื่อง เจ้าของแบรนด์ควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาสูตรที่ช่วยเสริมสุขภาพแบบองค์รวม และใช้กลยุทธ์การสื่อสารที่เน้นการดูแลตนเองในระยะยาว ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเสริมสุขภาพเชิงป้องกัน ไม่เพียงตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพยุคใหม่ แต่ยังสะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ใส่ใจผู้บริโภคอย่างแท้จริงด้วยค่ะ
2.อาหารเสริมเฉพาะบุคคล (Personalized Supplements)
อีกหนึ่งเทรนด์ที่มาแรงคืออาหารเสริมเฉพาะบุคคล ที่ออกแบบตามความต้องการของแต่ละคน เช่น สูตรสำหรับคนทำงานหนัก คนออกกำลังกาย หรือผู้ที่มีปัญหาผิวเฉพาะจุด แนวโน้มนี้เติบโตจากกระแสของเทคโนโลยีสุขภาพ (Health Tech) ที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพเพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับร่างกายของแต่ละคน
เจ้าของแบรนด์ควรปรับแนวทางการสื่อสารให้ตรงกลุ่มมากขึ้น เช่น การแบ่งกลุ่มลูกค้าตาม Lifestyle หรือการออกแบบสูตรที่ตอบโจทย์ปัญหาเฉพาะ เพื่อสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ที่เข้าใจลูกค้าในระดับลึกค่ะ
3.อาหารเสริมสาย Beauty Inside Out
อาหารเสริมเพื่อความงามจากภายในยังคงเป็นตลาดหลักในปี 2026 โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ในกลุ่มคอลลาเจน กลูต้า หรือวิตามินผิว ที่มีการปรับสูตรให้ดูดซึมได้ดีขึ้น และมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยฟื้นฟูผิวจากภายใน การทำการตลาดในกลุ่มนี้ควรใช้กลยุทธ์ Storytelling ที่เชื่อมโยง “ความสวย” กับ “สุขภาพดี” เพื่อสร้างความแตกต่างจากแบรนด์ทั่วไป
แบรนด์ที่สามารถเล่าเรื่องราวได้อย่างมีอารมณ์และจริงใจ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการจดจำและสร้างความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคได้มากขึ้นค่ะ
4.เทรนด์ Sustainability และ Clean Label
ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและความโปร่งใสในกระบวนการผลิต อาหารเสริมที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ ปลอดสารเคมี และมีบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ จึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับเจ้าของแบรนด์ นี่คือโอกาสในการสร้างจุดขายและภาพลักษณ์แบรนด์ที่ใส่ใจโลก
โรงงานที่มีมาตรฐานการผลิต เช่น GMP, HACCP หรือ ISO จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้แบรนด์ และเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้บริโภคค่ะ
ข้อควรรู้ก่อนเริ่มวางแผนการตลาดอาหารเสริมปี 2026
ก่อนจะเริ่มวางกลยุทธ์ทางการตลาด สิ่งที่เจ้าของแบรนด์ควรให้ความสำคัญไม่แพ้กันคือ “พื้นฐานของแบรนด์ที่มั่นคง” การมีสูตรผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และได้รับการรับรองจาก อย. คือจุดเริ่มต้นของความเชื่อมั่นจากผู้บริโภค
นอกจากนี้ เจ้าของแบรนด์ควรทำความเข้าใจข้อกำหนดทางกฎหมายเกี่ยวกับการโฆษณาอาหารเสริมให้ถูกต้อง เพื่อป้องกันปัญหาภายหลัง รวมถึงควรเลือกโรงงานผลิตที่มีทีมวิจัยและการตลาดช่วยออกแบบผลิตภัณฑ์และวางแผนภาพรวมให้ตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงและทำให้แบรนด์เติบโตได้อย่างยั่งยืนค่ะ
สรุปแนวทางการทำการตลาดอาหารเสริม 2026
ตลาดอาหารเสริมในปี 2026 ยังคงเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงและเปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการหน้าใหม่เสมอ เจ้าของแบรนด์ที่ต้องการประสบความสำเร็จควรให้ความสำคัญกับการเข้าใจผู้บริโภคอย่างแท้จริง วางแผนกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับเทรนด์สุขภาพและความยั่งยืน รวมถึงเลือกพาร์ตเนอร์การผลิตที่มีความเชี่ยวชาญและน่าเชื่อถือ
หากคุณกำลังวางแผนสร้างแบรนด์อาหารเสริมในปี 2026 ทีมผู้เชี่ยวชาญจาก Charmace Cosmed พร้อมให้คำปรึกษาด้านสูตร ผลิตภัณฑ์ และกลยุทธ์การตลาดครบวงจร เพื่อให้แบรนด์ของคุณพร้อมเติบโตในตลาดอาหารเสริมยุคใหม่อย่างมั่นคงค่ะ
กลยุทธ์การตลาดอาหารเสริม 2026 ที่เจ้าของแบรนด์ควรโฟกัส
เมื่อเทรนด์ตลาดเริ่มชัดเจนแล้ว สิ่งต่อมาที่เจ้าของแบรนด์ควรให้ความสำคัญคือการวางกลยุทธ์การตลาดให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคดิจิทัล ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วและหลากหลายมากขึ้น
1.การสร้างแบรนด์ด้วยคอนเทนต์ (Content Branding)
คอนเทนต์ที่ให้ความรู้จริง สื่อสารด้วยข้อมูลที่ถูกต้อง และมีคุณค่า คือหัวใจสำคัญของการตลาดในปี 2026 เจ้าของแบรนด์ควรผลิตคอนเทนต์ในรูปแบบที่หลากหลาย เช่น บทความสุขภาพ รีวิวจากผู้ใช้จริง หรือวิดีโอสั้นบน TikTok และ YouTube Shorts ที่สื่อสารเรื่องราวของผลิตภัณฑ์อย่างตรงไปตรงมา ดังนั้น การให้ข้อมูลที่ชัดเจนและจริงใจ จะช่วยให้ผู้บริโภครู้สึกว่าแบรนด์มีความน่าเชื่อถือ และพร้อมจะตัดสินใจซื้อในระยะยาวค่ะ
2.กลยุทธ์ Influencer Marketing แบบเน้นความน่าเชื่อถือ
ในยุคที่ผู้บริโภคระมัดระวังเรื่องโฆษณามากขึ้น การเลือก Influencer ที่มีภาพลักษณ์ตรงกับกลุ่มเป้าหมายและมีความน่าเชื่อถือจึงสำคัญมาก โดยเฉพาะกลุ่ม Micro-Influencer ที่มีผู้ติดตามหลักหมื่นแต่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้ชม จะช่วยให้การสื่อสารเข้าถึงลูกค้าได้ลึกกว่า ดังนั้น กลยุทธ์นี้เหมาะกับแบรนด์ที่ต้องการสร้างฐานลูกค้าระยะยาว เพราะความจริงใจของผู้รีวิวสามารถเปลี่ยนผู้ชมให้กลายเป็นลูกค้าได้ค่ะ
3.กลยุทธ์ Omnichannel Marketing
ผู้บริโภคในยุคดิจิทัลไม่ได้จำกัดการซื้อสินค้าผ่านช่องทางเดียวอีกต่อไป เจ้าของแบรนด์ควรเชื่อมโยงช่องทางออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน เช่น การขายผ่าน Shopee, TikTok Shop, LINE Official รวมถึงการสร้างประสบการณ์ในร้านขายยาและคลินิกสุขภาพ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าหลากหลายกลุ่ม นอกจากนี้ การบริหารระบบติดตามลูกค้า (CRM) แบบนี้จะยังช่วยให้แบรนด์สามารถดูแลลูกค้าเดิมและกระตุ้นการซื้อซ้ำได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วยค่ะ
4.การใช้ Data และ AI ในการวางแผนการตลาด
ในปี 2026 การตลาดเชิงข้อมูล (Data-driven Marketing) จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น เจ้าของแบรนด์สามารถใช้ข้อมูลจากพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าเพื่อปรับแผนการสื่อสารให้ตรงจุด เช่น การทำโฆษณาแบบ Remarketing หรือใช้ AI ช่วยวิเคราะห์เทรนด์ตลาดและสร้างคอนเทนต์ที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย
โดยสำหรับแบรนด์ที่นำศักยภาพของเทคโนโลยีเหล่านี้ออกมามาใช้ได้อย่างตรงจุด ก็จะสามารถลดต้นทุนทางการตลาดและเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญได้อย่างมากค่ะ
Charmace รับผลิต อาหารเสริม เราสรรสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล
แผนกวิจัยและพัฒนาสูตรอาหารเสริม
บริษัท ชาร์แมซ ซี.เค. คอสเมด จำกัด เรามีทีมนักวิทยาศาสตร์ ทีมนักวิจัย และเภสัชกร ที่มีประสบการณ์ อีกทั้งยังเชียวชาญระดับสูง ที่จะคอยควบคุมทุกขั้นตอนการผลิตอาหารเสริม ไม่ว่าจะเป็น แผนกวิจัยและพัฒนาฝ่ายอาหารเสริม แผนกวิจัยและพัฒนาสารสกัดสมุนไพร ตลอดจน ครีม เครื่องสำอาง ต่างๆ อีกทั้งทีมวิจัยและพัฒนาได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ พร้อมทดสอบและพัฒนาสูตรอาหารเสริมให้มีคุณภาพสูง พร้อมให้คำปรึกษา ดูแลช่วยเหลือ และปรับแต่งสูตรต่างๆ ตามความต้องการของเจ้าของแบรนด์อาหารเสริม และให้ข้อมูลต่างๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
แผนกตรวจสอบความปลอดภัยอาหารเสริม QC Department
หลังจากผ่านกระบวนการวิจัยและพัฒนาเรียบร้อย เรายังคำนึงถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพของสินค้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหารเสริม ครีม สบู่ ตลอดจนเครื่องสำอาง ทุกชนิด ด้วยการควบคุมคุณภาพภายใต้มาตรฐานการรับรองระดับโลก GMP HACCP HALAL ทั้งตรวจสอบความปลอดภัยของสารปนเปื้อนทุกชนิด เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยได้อย่าง 100%
กระบวนการผลิตอาหารเสริม (Production)
ทุกผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไม่ว่าจะเป็น อาหารเสริม ครีม สบู่ เครื่องสำอาง ทุกชิ้นของบริษัท ได้ผ่านการควบคุมอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการผลิต ด้วยทีมงานที่มีคุณภาพ รับรองคุณภาพและวิธีการผลิตตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด โดยยึดหลักความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด อีกทั้งยังควบคุมดูแล ทำความสะอาดเครื่องจักรในกระบวนการผลิตอยู่เป็นประจำ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิต และผ่านการทดสอบจากห้องแลบมาตรฐานระดับสูง เพื่อเพิ่มความมั่นใจและความไว้วางใจ ในการนำผลิตภัณฑ์สู่ท้องตลาดไปสู่มือผู้บริโภค จากโรงงานของเรา
ท้ายที่สุด หลายๆ คนคงเห็นแล้วนะคะว่า กว่าจะได้ผลิตภัณฑ์ หรือ อาหารเสริม มาแต่ละตัว ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย สิ่งที่สำคัญมากๆ คือ เจ้าของแบรนด์ต้องพิจารณาเลือกทีมสร้างแบรนด์และโรงงานผลิตให้ดี เพราะหากมีขั้นตอนใดผิดพลาด ก็จะมีปัญหาตามมาได้เรื่อยๆ ค่ะ ทั้งนี้ ในเรื่องของเวลาดำเนินการการผลิตจำเป็นต้องใช้เวลา อย่างต่ำคือประมาณ 12-16 สัปดาห์ (ซึ่งนับจากขั้นตอนสั่งซื้อวัตถุดิบ) เจ้าของแบรนด์สามารถใช้เวลากับสินค้าของตนเองได้เต็มที่ เพื่อให้สินค้าออกมาสมบูรณ์แบบมากที่สุดค่ะ
บทความที่น่าสนใจ
สร้างจุดขายให้แบรนด์ กับ สารประกอบสุดฮิต ที่ตลาดต้องการ เพิ่มยอดขายหลายร้อยล้าน !!
