กันแดดแบบกิน คืออะไร ไม่ใช่เรื่องแปลกใจที่หลาย ๆ คนอาจไม่รู้จัก แต่ถ้าหากพูดง่าย ๆ ก็คือ มันเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ช่วยในการบำรุงผิวพรรณนั่นเอง ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า ในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ประเทศไทยของเรานั้น นอกจากจะมีอุณหภูมิที่สูงแล้ว เรื่องแดดที่แผดเผาก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้ผิวของทุก ๆ คนถูกทำร้ายอย่างรุนแรง นั่นจึงกลายเป็นเหตุผลที่ทำให้เราจำเป็นต้องมีไอเทมที่คอยช่วยฟื้นฟูและกู้ผิวให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ในการบริโภคกันแบบชนิดรับประทานนั้น ยังมีอีกหลายข้อควรระวังที่ผู้บริโภคอาจยังไม่ทราบ ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น บทความนี้ Charmace มีคำตอบค่ะ
กันแดดแบบกิน คืออะไร ทำงานยังไง ใช้แล้วได้ผลจริงหรือเปล่า?
เป็นที่ทราบกันดีว่าแดดบ้านเรามันร้อนแรงดังนรกแผดเผา ต้องโบกครีมกันแดดทั้งตัวและหน้าบ่อย ๆ สำหรับบางคนที่แพ้ครีมกันแดดหรือไม่ชอบทาเพราะความเหนียวเหนอะ อาจทำให้หน้ามันและเกิดสิว ดังนั้น กันแดดชนิดวิตามิน / อาหารเสริม ที่กินได้ จึงกลายมาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจนั่นเองค่ะ
กันแดดแบบกินได้ คืออะไร
เป็นส่วนประกอบของสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) จากสารสกัดธรรมชาติหลายๆ ชนิด ที่มีการวิจัยว่าช่วยปกป้องผิวจากการทำร้ายของแสงแดดได้ เช่น แคโรทีนอยด์, ไลโคปีน, Ellagic acid จากสารสกัดทับทิบ, Polyphenol, สารสกัดชาเขียว, วิตามินซี, วิตามิน E, วิตามิน B3 (Niacinamide) เป็นต้น
ในบางยี่ห้ออาจมีการเพิ่ม L-Cysteine ซึ่งเป็นสารตั้งต้นให้ร่างกายผลิตกลูตาไทโอนตามธรรมชาติ , คอลลาเจนเปปไทด์ , วิตามิน และแร่ธาตุอื่นๆ เข้ามาช่วยเสริมในการดูแลผิวและร่างกายด้วย
กันแดด แบบกินทำงานยังไง
เพราะการทำงานของกันแดดแบบกินและแบบทาตัวมีความ ครีมกันแดด มีกลไกการทำงานคือการสะท้อน หรือดูดซับความเสียหายที่รังสียูวีมากระทบกับผิว ปกป้องผิวจากภายนอก ซึ่งเห็นผลได้จริง ชัดเจนและปลอดภัยกว่า โดยควรเลือกใช้ SPF ที่เหมาะสมและทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมงเพื่อคงประสิทธิภาพของการกันแดด
กันแดดชนิดกินได้ ออกฤทธิ์แบบใดบ้าง?
ผลิตภัณฑ์กันแดดชนิดกินอาจออกฤทธิ์เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ สารที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ หรือสารที่มีฤทธิ์เปลี่ยนแปลงระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายที่มีต่อแสงแดด โดยสารที่นิยมใช้มักเป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่ดูดซับได้ง่าย เช่น สารสกัดจากชาเขียว โกโก้ ทับทิม เป็นต้น ซึ่งมีสารออกฤทธิ์หลัก ดังนี้
1.วิตามินซี, อี, อนุพันธ์วิตามินบีสาม วิตามินดีสาม
2.สารกลุ่มโพลีฟีนอล แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มฟลาโวนอยด์ และ กลุ่มที่ไม่ใช่ฟลาโวนอยด์
3.สารกลุ่มที่ไม่ใช่โพลีฟีนอล – สารแคโรทีนอยด์ – สารคาเฟอีน
ข้อดี-ข้อเสีย ของผลิตภัณฑ์ “กันแดดชนิดกิน”
ในทุก ๆ ผลิตภัณฑ์นั้น แน่นอนว่าย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งสำหรับ กันแดดชนิดนี้ สามารถแบ่งออกได้เป็น…
ข้อดีของกันแดดแบบกิน
- ใช้ง่ายไม่ต้องทาให้เหนียวเหนอะหนะ การออกฤทธิ์ไม่ต้องขึ้นกับการดูดซึมผ่านทางผิวหนัง
- ไม่ถูกรบกวนด้วยปัจจัยภายนอก เช่น เหงื่อ น้ำทะเล หรือน้ำจากสระว่ายน้ำ จึงไม่ต้องทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง
ข้อเสียกันแดดแบบกิน
- ผลข้างเคียงจากการดูดซึมยา
- กันแดดชนิดกินไม่สามารถนำมาใช้แทนครีมกันแดดชนิดทาได้ เนื่องจากไม่ได้ออกฤทธิ์เป็นเกราะป้องกันรังสียูวีโดยตรง
ข้อควรระวังในการรับประทานกันแดดชนิดกิน
กันแดดชนิดกินไม่สามารถนำมาใช้แทนครีมกันแดดชนิดทาได้ เนื่องจากไม่ได้ออกฤทธิ์เป็นเกราะป้องกันรังสียูวีโดยตรง ทั้งนี้ ควรนำผลิตภัณฑ์กันแดดชนิดกินมาใช้เป็นเพียงตัวช่วยเสริมฤทธิ์ยาครีมกันแดดชนิดทา ใช้ในการป้องกันผิวหนังจากผลกระทบที่เกิดจากแสงแดด เช่น ผิวไหม้อักเสบ ผิวหยาบกร้าน ผิวหมองคล้ำ ริ้วรอย และการเกิดมะเร็งผิวหนังได้
ข้อควรระวัง ผลิตภัณฑ์กันแดดชนิดกิน มีทั้งรูปแบบน้ำ เม็ด และแคปซูล ปริมาณยาที่เหมาะสมและการบริหารยาให้อ้างอิงตามฉลากของผลิตภัณฑ์ และหากมีอาการผิดปกติ หลังจากใช้ยา เช่น มีผื่นคัน แสบบริเวณผิวหนัง ตาไวต่อแสง เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ให้หยุดยาทันทีและควรรีบไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการโดยด่วน
บทความที่น่าสนใจ
มาดูกัน! เทรนด์อาหารเสริม แบบเครื่องดื่ม ปี 2023 มีอะไรที่น่าจับตา
ขายอาหารเสริม ต้องมีใบอนุญาต อะไรบ้าง อยากขอใบอนุญาตต้องเริ่มตรงไหน
อยากขายอาหารเสริม ให้รายได้ปังต้องทำยังไง 7 วิธีทำการตลาดให้ได้ผล