อาหารเสริม ใบบัวบก เชื่อได้ว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักเจ้าสมุนไพรที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนานกับ “ใบบัวบก” กับวลีเด็ด “แก้ช้ำอกช้ำใน” อย่างแน่นอนค่ะ แต่ถึงคนไทยเรานั้นจะรู้จักเจ้าสมุนไพรชนิดนี้มานานแค่ไหน แต่ต้องบอกก่อนค่ะว่าใบบัวบกไม่ได้มีเพียงในประเทศไทยเท่านั้น เพราะใบบัวบกยังเป็นพืชที่เจริญเติบโตในแถบประเทศอินเดีย แอฟริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างบ้านเรานั่นเอง อย่างไรก็ดีค่ะ ภาพจำของมันคือเป็นสมุนไพรที่มักถูกใช้มาเป็นยารักษาโรค ทั้งนี้มักมาจากแผนการรักษาโบราณของอินเดียและจีนมาอย่างยาวนาน เช่น โรคซิฟิลิส โรคหอบหืด หรือโรคสะเก็ดเงิน และยังนำมาประกอบอาหารได้อีกด้วยค่ะ ทั้งนี้ยังสามารถนำมาแปรรูปเป็นอาหารเสริมและได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบันค่ะ
ใบบัวบก คืออะไร และมีสรรพคุณอะไรบ้างที่ทำให้ผู้บริโภคเลือกซื้อเสมอ?
ใบบัวบก คือ สมุนไพรไทยที่รู้จักกันในเรื่องของการแก้ร้อนใน เป็นไม้ล้มลุกซึ่งเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวโดยมีลักษณะใบคล้ายใบบัว ขึ้นกระจายได้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศโดยเฉพาะบริเวณที่ชื้นแฉะ ในส่วนของลำต้นจะเป็นไหล (Stolen) โดยมีลักษณะ ทรงกลม เป็นข้อปล้องที่สามารถเลื้อยไปตามพื้นดิน ซึ่งมีทั้งไหลอ่อนสีขาว และไหลแก่สีน้ำตาล ใบบัวบกเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวสลับสีเขียว ออกกระจุกได้หลาย ๆ ใบต่อข้อ ซึ่งแต่ละข้อจะมีตั้งแต่ 2 – 10 ใบ ใบด้านบนจะเรียบ ส่วนด้านล่างจะมีขนสั้นปกคลุมซึ่งขอบใบจะมีรอยหยักเป็นคลื่น นอกจากนี้ใบบัวยังสามารถออกดอกได้อีกด้วย หลายคนอาจจะยังไม่เคยเห็นโดยลักษณะดอกจะออกเป็นช่อ มีกลีบดอกเป็นสีขาว และสำหรับผลจะมีลักษณะกลมแบน เปลือกเมล็ดค่อนข้างแข็งมีสีเขียวหรือม่วงน้ำตาล
สรรพคุณต่าง ๆ ของใบบัวบก มีอะไรบ้าง?
หลาย ๆ คนรู้ว่าใบบัวบกนั้นมีคุณประโยชน์ในการช่วยรักษาอาการช้ำใน เพราะเป็นภาพจำของสมุนไพรชนิดนี้มาโดยตลอด แต่แท้จริงแล้วใบบัวบกนั้นมีประโยชน์มากกว่าที่เห็นค่ะ เช่น
- บรรเทาอาการเจ็บคอ ร้อนใน กระหายน้ำ
- ลดระดับน้ำตาลในเลือด รักษาโรคความดันโลหิตสูง
- เสริมสร้าง และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอิลาสติกให้ผิวหนังเปล่งปลั่ง
- บำรุงประสาท และสมอง เพิ่มความสามารถในการจำ ลดความเสี่ยงอัลไซเมอร์ หรือสมองเสื่อม
- ลดความเครียด และคลายความกังวลได้ แก้อาการปวด เวียนศีรษะ
วิธีการรับประทานใบบัวบกให้ได้ผล
โดยทั่วไปแล้ว เรามักเห็นใบบัวบกนั้นถูกสกัดออกมาเป็นน้ำและวางขายตามท้องตลาดทั่วไป หรือ แบบสด ที่สามารถนำมารับประทานเป็นเครื่องเคียงในมื้ออาหารนั่นเองค่ะ อย่างไรก็ตามการรับประทานทั้งสองแบบต่างเป็นวิธีเพื่อสุขภาพทั้งสิ้นค่ะ ทั้งนี้ยังสามารถนำแปรรูปเป็นอาหารเสริมในรูปแบบต่าง ๆ ได้อีกด้วย
ผลข้างเคียงของการรับประทาน “ใบบัวบก”
แม้ใบบัวบกจะเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณเป็นอย่างมาก แต่หากรับประทานอย่างไม่ถูกต้องก็อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ค่ะ เช่น
- การรับประทานใบบัวบกในรูปของสารสกัดที่มีขนาด 300มก. เป็นเวลา 21 วันในร่างกายมนุษย์ ไม่พบผลข้างเคียง แต่ในบางคนพบว่า การใช้ครีมที่มีส่วนผสมของใบบัวบกสกัดอาจทำให้เกิดอาการคันผิว และหากดื่มใบบัวบกในรูปของชามากเกินไป ก็พบว่าอาจมีอาการคลื่นไส้ ง่วงซึม ปวดศีรษะ หรือความดันเลือดต่ำได้
- ผลข้างเคียงของใบบัวบกพบได้ยาก แต่ในกรณีที่เกิดผลข้างเคียงมักปรากฏในรูปของอาการภูมิแพ้ที่ผิวหนัง ปวดศีรษะ ปวดท้อง คลื่นไส้ เวียนศีรษะ และง่วงซึม ซึ่งมักจะเกิดในกรณีที่รับประทานในปริมาณสูงมาก ๆ ไม่แนะนำให้เด็กรับประทานใบบัวบก รวมทั้งผู้ใหญ่วัย 65 ปีขึ้นไป ก็ควรรับประทานแต่น้อย
- ใบบัวบกอาจปลอดภัยสำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์ ในกรณีที่ใช้ทาลงบนผิว แต่ไม่ควรรับประทาน เพราะยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดถึงความปลอดภัยในการกินใบบัวบก รวมทั้งยังไม่มีข้อมูลว่าปลอดภัยสำหรับสตรีที่กำลังให้นมบุตร เพราะฉะนั้น ควรหลีกเลี่ยง
- ผู้ที่เป็นโรคตับ ไม่ควรรับประทาน เพราะมีข้อกังวลอยู่ว่าใบบัวบกอาจทำลายตับได้ เพราะฉะนั้นผู้ที่เป็นโรคตับ เช่น ตับอักเสบ ควรหลีกเลี่ยงใบบัวบก เนื่องจากอาจทำให้อาการแย่ลงได้
ดังนั้น ผู้บริโภคต้องศึกษาการรับประทานอย่างถูกวิธี เพื่อที่จะได้รับประสิทธิภาพสูงสุดจากตัวใบบัวบก โดยสามารถติดตามต่อได้จากบทความด้านล่างค่ะ
กินอาหารเสริมเวลาไหนดีที่สุด ดูดซึมได้เร็ว ไม่ต้องรอ
วิธีทานอาหารเสริม ให้ได้ผล ปลอดภัย ไม่เสี่ยงตับอักเสบ
อย่างไรก็ตามค่ะ จากข้อมูลด้านบนเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการรับประทานอาหารเสริมและข้อควรระวังในการบริโภคใบบัวบกเท่านั้น ซึ่งการรับประทานเจ้าสมุนไพรตัวนี้ของผู้บริโภคควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญเพราะ หากได้รับในปริมาณมากเกินไป หรือใช้ร่วมกับยาอื่น ๆ ที่อาจส่งผลข้างเคียงก็เป็นอันตรายต่อชีวิตได้ ค่ะ ซึ่งทาง Charmace หวังว่าจะมีประโยชน์ต่อผู้อ่านทุก ๆ ท่าน รวมถึงให้ผู้อ่านได้นำข้อมูลดังกล่าวไปปฏิบัติใช้ได้อย่างถูกต้อง และถูกวิธีเพื่อให้เกิดสุขภาพร่างกายที่ดีโดยไม่มีผลข้างเคียงนะคะ
เคล็ดลับการทำอาหารเสริมสำหรับเจ้าของแบรนด์มือใหม่
สำหรับเจ้าของแบรนด์ที่กำลังสนใจอยากผลิตอาหารเสริมสมุนไพร โดยเฉพาะใบบัวบก แต่ยังไม่แน่ใจว่าควรผลิตออกมาในรูปแบบไหน สามารถศึกษาจากข้อมูลเบื้องต้นได้ ดังนี้ค่ะ
อาหารเสริม ใบบัวบก แบบไหนขายดี อยากผลิตเพื่อจำหน่ายต้องเริ่มจากตรงไหน?
เรียกได้ว่าเป็นกระแสที่กำลังมาแรงเป็นอย่างมากกับธุรกิจอาหารเสริม เนื่องจากในปัจจุบันเทรนด์การรักสุขภาพนั้นกำลังมาแรงเป็นอย่างมากค่ะ ซึ่งสาเหตุสำคัญมักมาจากช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19และพฤติกรรมของคนในยุคใหม่ที่ส่งผลให้ร่างกายเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น จึงไม่เป็นที่น่าแปลกใจเท่าไหร่นักหากเจ้าของแบรนด์มือใหม่มีความต้องการที่จะจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพดังกล่าว อย่างไรก็ตามในบทความนี้ Charmace จึงได้นำอาหารเสริมสมุนไพรยอดฮิตอีกชนิดหนึ่งมานำเสนอเพื่อเป็นอีกหนึ่งข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจให้แก่เจ้าของธุรกิจอาหารเสริมมือใหม่ ว่าถ้าหากจะขายสินค้าประเภทนี้ต้องเตรียมตัวยังไง แล้วต้องทำแบบไหนจึงจะถูกใจผู้บริโภคมากที่สุด เรามาศึกษาและหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันค่ะ
แนวโน้มการตลาดอาหารเสริมสมุนไพรไทย
สำหรับศักยภาพในการผลิตของ ธุรกิจอาหารเสริมและสมุนไพรไทย ยืนยันได้ด้วยข้อมูลทางสถิติที่ระบุว่าปัจจุบันไทยเป็นแหล่งสมุนไพรและวัตถุดิบธรรมชาติที่หลากหลาย ในปี 2563 มีสถิติการส่งออกอาหารเสริมและวิตามิน (พิกัดศุลกากร 2936) ปริมาณ 1,616.88 ตัน คิดเป็นมูลค่า 794.27 ล้านบาทเลยทีเดียว ดังนั้นหากเจ้าของแบรนด์ท่านใดที่กำลังสนใจการทำอาหารเสริมสมุนไพรนั้น ก็สามารถศึกษาข้อมูลดังต่อไปนี้ได้เลยค่ะ
หลักการการสกัดสารสำคัญจากสมุนไพร มีอะไรบ้าง?
สำหรับหลักการสำคัญ ๆ ของการสกัดสมุนไพรนั้น มีทั้งหมด 4 ขั้นตอนด้วยกันค่ะ ประกอบด้วย
1.ศึกษาชนิดของสารสำคัญที่อยู่ในสมุนไพร
กล่าวคือพืชสมุนไพรนั้นมีความหลากหลาย ในขณะเดียวกันสารสำคัญหรือสารประกอบในพืชสมุนไพรก็มีมากมายหลายชนิด ซี่งสารแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติแตกต่างกันมากมายเช่น สารบางชนิดเป็นสารมีขั้วที่สามารถละลายน้ำได้ ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต กรดอินทรีย์เป็นต้น หรือ สารบางชนิดเป็นสารกึ่งมีขั้วที่สามารถละลายได้ดีในแอลกอฮอล์ เช่น แทนนิน ซาโปนิน รวมถึงสารบางชนิดเป็นสารไม่มีขั้วที่ไม่สามารถละลายน้ำได้แต่ละลายได้ดีในตัวทำละลายสารอินทรีย์ เช่น น้ำมันหอมระเหย ไขมัน เป็นต้น ดังนั้นในการสกัดสารเราจะต้องทราบว่าสารที่สนใจนั้นมีคุณสมบัติอย่างไรเพื่อที่จะได้เลือกวิธีและตัวทำละลายให้เหมาะสมเพื่อใช้ในการสกัดต่อไป
2. คุณสมบัติของสารในการทนความร้อน
เนื่องจากสารในพืชสมุนไพรบางชนิดไม่ทนความร้อน ดังนั้นหากเลือกวิธีการสกัดที่ต้องใช้ความร้อน จะทำให้สารนั้นเสื่อมสภาพทำให้ไม่ได้สารที่ต้องการ ดังนั้นคุณสมบัติการทนความร้อนของสารจึงเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงด้วยนั่นเองค่ะ
3. วิธีการสกัด
การสกัดสารสำคัญนั้นมีหลายวิธี เช่น
- วิธีการหมัก (maceration)
- วิธีการหมักแบบต่อเนื่อง (percolation)
- การสกัดแบบต่อเนื่องโดยใช้ความร้อน (soxhlet extraction)
- การสกัดของเหลวด้วยของเหลว (liquid-liquid extraction)
- การสกัดน้ำมันหอมระเหย (extraction of volatile oil)
โดยในการเลือกว่าจะใช้วิธีการใดนั้น ให้เจ้าของแบรนด์พิจารณาจากจุดประสงค์ของเราว่าต้องการให้ได้สารสกัดที่สมบูรณ์หรือเกือบสมบูรณ์ เช่น หากต้องการสารสกัดเจือจางอาจใช้วิธีการหมักก็เพียงพอ นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาจากคุณค่าของสารสกัดและค่าใช้จ่ายในการสกัด ตลอดจนความพร้อมของอุปกรณ์และเครื่องมือที่มีอยู่ เพราะแต่ละวิธีการสกัดนั้นจะมีข้อดีข้อเสียรวมถึงวิธีการที่แตกต่างกันซึ่งจำเป็นต้องศึกษาการสกัดของแต่ละวิธีและเลือกให้เหมาะสมกับสิ่งที่เราต้องการค่ะ
4. ชนิดของตัวทำละลายที่ใช้
การสกัดสารจะได้ผลดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับการเลือกตัวทำละลายที่เหมาะสม เนื่องจากสารประกอบในพืชมีมากมายหลายชนิด และมีคุณสมบัติแตกต่างกันมาก การเลือกตัวทําละลายที่จะได้สารทุกกลุ่มที่ต้องการจึงทําได้ยาก โดยคุณสมบัติของตัวทำละลายที่ดี นอกจากจะเป็นตัวทำละลายที่สามารถละลายสารที่ต้องการสกัดได้พอดีแล้ว จะต้องไม่ระเหยยากหรือง่ายเกินไป รวมถึงไม่ทำปฏิกิริยากับสารที่สนใจสกัด ไม่เป็นพิษ และ ราคาไม่แพง
“ใบบัวบกแคปซูล” รูปแบบอาหารเสริมที่ถูกใจผู้บริโภคมากที่สุด
อาหารเสริมนั้นมีหลากหลายรูปแบบค่ะ แต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังคงนิยมรับประทานอาหารเสริมและวิตามินในรูปแบบเม็ดแคปซูลมากที่สุด รองลงมา คือ แบบเม็ด แบบผง แบบผงกรอกปาก และแบบเจลลี่ ตามลำดับ ซึ่ง “ใบบัวบก” มักถูกออกแบบให้เป็นอาหารเสริมชนิดแคปซูลเนื่องจากมีข้อดี-ข้อเสียดังนี้ค่ะ
อาหารเสริมประเภทแคปซูล
อาหารเสริมรูปแบบแคปซูลจะเป็นการนำสารสกัดต่าง ๆ มาผสมผสานกันในรูปแบบของผง จากนั้นนำไปบรรจุใส่ในแคปซูล ซึ่งแคปซูลมีส่วนประกอบมาจากเจลาติน มีหลากหลายสีสัน
ข้อดี
- สามารถกำหนดขนาด และรูปแบบของอาหารเสริมได้
- ควบคุมน้ำหนักของผลิตภัณฑ์ได้
- ป้องกันความชื้นได้ในระดับหนึ่ง
- ควบคุมขนาด และปริมาณของสารสกัดได้
ข้อเสีย
- มีข้อจำกัดในการใส่สารสกัด
- ไม่สามารถวิเคราะห์สารได้ด้วยตาเปล่า
แต่อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้ว การจะเลือกประเภทของอาหารเสริมเพื่อทำการจำหน่ายในปัจจุบันนั้น จะขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมายของเจ้าของแบรนด์ทั้งสิ้นค่ะ เพราะจากที่กล่าวไปข้างต้นว่าผู้บริโภคแต่ละวัยนั้นจะมีความเหมาะสมกับอาหารเสริมแต่ละประเภทที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น สิ่งที่เจ้าของแบรนด์ต้องทำคือ ต้องทำการวิเคราะห์เกี่ยวกับพฤติกรรมและความต้องการของกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ให้ดีและตีโจทย์ให้แตก เพื่อที่จะได้วางแนวทางที่ถูกต้องรวมถึงการต่อยอดในอนาคตด้วยค่ะ
บทความที่น่าสนใจ
อาหารเสริม สมุนไพร คืออะไร แตกต่างจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทั่วไปอย่างไร
รับผลิตอาหารเสริม สมุนไพร- 7 สารสกัดยอดนิยมที่เจ้าของแบรนด์ต้องรู้
5 อันดับอาหารเสริมสมุนไพรลดความอ้วน สุดฮิต อยากผอมห้ามพลาด !!
บริการของเรา มุ่งเน้นการให้บริการแบบครบวงจร ใส่ใจทุกกระบวนการผลิตด้วยมาตรฐาน
ปัจจุบันนี้มีธุรกิจหลายอย่างได้เกิดขึ้นอย่างมากมาย สำหรับการสร้างแบรนด์อาหารเสริม หรือ การสร้างแบรนด์ครีม ในตอนนี้ ต้องยอมรับว่าตลาดความสวยความงามนั้นสามารถสร้างรายได้ต่อปีจำนวนมหาศาล ซึ่งในตอนนี้หลายคนก็ได้เริ่มหันมาผลิตอาหารเสริม หรือ ผลิตครีมมากมาย เราจะเห็นได้จากดาราที่หันมาทำธุรกิจอาหารเสริม หรือ ธุรกิจครีมกันเพิ่มมากขึ้น แน่นอนว่าเขาไม่ได้สร้างโรงงานผลิตเองแน่นอน ทุกวันนี้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะมีผู้รับผลิตซึ่งเป็นโรงงานรับผลิตที่มีความน่าเชื่อถือ มีมาตรฐานรองรับ
สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างแบรนด์อาหารเสริมหรือ สร้างแบรนด์ครีมของตัวเอง หรือ ผู้ที่อยากขายของออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นขายครีมออนไลน์ ขายอาหารเสริมออนไลน์ สามารถปรึกษาข้อมูลได้ที่ บริษัท ชาร์แมซ ซี.เค. คอสเมด จำกัด โรงงาน รับผลิตอาหารเสริม รับผลิตอาหารเสริมลดน้ำหนัก อาหารเสริมบำรุงผิว รับผลิตคอลลาเจน อาหารเสริมบำรุงสุขภาพทุกชนิด
มีทีมงานวิจัย ช่วยคิดค้นสูตร แกะสูตรและผลิตอาหารเสริม ให้ตรงความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย พร้อมบริการขึ้นทะเบียนอาหาร ภายใต้แบรนด์ของลูกค้า บริการรับผลิตและออกแบบแพ็กเกจผลิตภัณฑ์สินค้า เหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นสร้างแบรนด์ มีบริการหลังการขายที่จะให้คำปรึกษาทั้งด้านการผลิต และการตลาดอย่างมืออาชีพ